นายกฯ ฟิต เสร็จ คณะรัฐมนตรี บินลง ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี รับปัญหาชาวบ้านไม่มีที่ทำมาหากิน 113 ราย หลังร้องเรียนไม่คืบ ย้ำ มาไขปัญหา ยึดตามกม. ไม่ได้หวังให้รักและไม่ได้มาการเมือง เจอราษฎรขอหอมแก้ม แก้เขิน บอกต้องระมัดระวังโควิด ให้ถ่ายภาพแทน
วันหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อตรวจราชการ โดยเมื่อเดินทางถึง นายกฯเดินทางไปยังพื้นที่ใช้ประโยชน์ ณ แปลงจัดสรร ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง ตรวจติดตามพื้นที่ทำกิน กรณีประชาชนไร้ที่ทำมาหากิน 113 ราย ร้องทุกข์การขอจัดที่ทำมาหากินล่าช้า
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี พบปะสนทนากับประชาชน ที่ได้รับจัดสรรพื้นที่ใช้ประโยชน์ ที่ อบต. วังยาว เมื่อนายกฯ มาถึงได้รับ พวงมาลัย แล้วก็ดอกไม้จากราษฎร โดยกล่าวว่า ขอบคุณมากทุกคน ตนมีกำลังใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นายกฯ ได้ไต่ถามปัญหากับประชาชน โดยระบุว่า
นายกฯ ทำ คทช. มาหลายปีแล้ว ก่อตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาให้กับผู้มีรายได้น้อย ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วจนกระทั่งรัฐบาลนี้ วันนี้ถือโอกาสมาดูว่ามีปัญหาอะไรอีกบ้าง การันตีว่าตนมาในนามนายกรัฐมนตรี รักทุกคนอยู่แล้ว รับรองต้องทำให้ถูก
เดินระหว่างที่นายกรัฐมนตรีบอกกับชาวบ้าน ไมค์ติด ๆ ดับ ๆ จนกระทั่งราษฎรแซวว่า ไม่ต้องใช้ไมค์ นายกฯไฟแรงอยู่แล้ว
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้มาเพื่อความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งนายกฯเองมีนโยบายเรื่องความเท่าเทียม แล้วก็การเข้าถึงโอกาส ดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่ทั้งปวงต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย กฎกติกาต้องเห็นด้วยซึ่งกันและกัน
นายกฯ รับปากว่า หลักการทั้งหมดนั้นอนุมัติให้อยู่แล้ว แต่ว่าต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ว่าถูกหรือเปล่า โดยได้สั่งการให้ดูที่ดิน 2 แปลงใหญ่
ว่าเป็นการเช่าตามกฏหมายหรือไม่ ออกมาแบบนั้นได้อย่างไร ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมระบุอีกว่า ข้อตกลงสำคัญคือจะต้องตรวจสอบว่า ชาวบ้าน 113 ราย
มีที่ดินสำหรับทำกินที่อื่นๆไหม ถ้าหากมี จะมิได้รับการจัดสรร ซึ่งราษฎรรับปากว่า ครับผม ส่วนนายกรัฐมนตรีแซวว่า พูดเพราะ เป็นทหารเก่าหรือเปล่า
นายกฯ ถามคำถามว่า ใครคนไหนเป็นคนจัดสรรให้ ราษฎรว่า “คุณพี” นายกรัฐมนตรี ถามว่า “คุณพี” เป็นใคร แต่ว่าไม่ว่าใคร ก็ตัดสินไม่ได้ ด้วยเหตุว่าตนคือนายกฯ ถ้าเกิดนายกรัฐมนตรี ตัดสินมิได้ ใครก็ทำให้มิได้เหมือนกัน
ดังนี้ ชาวบ้าน กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ดำเนินการให้ นายกฯ ก็เลยรีบปรามว่า ไม่ใช่ ศัตรูกัน คนไทยด้วยกันทั้งหมด ตรงนี้ตนได้มอบหมายให้ผู้ว่าไปดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
นายกรัฐมนตรี พูดว่า ได้สั่งไปว่า ให้ดำเนินการให้ประชาชน 113 ราย นี่ก่อน ซึ่งหากถูกต้อง จึงควรทำผัง แล้วก็จับสลากว่าใครอยู่ตรงไหน ซึ่งจากการเอกสาร พบว่า มีราษฎรไม่ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ 59 ราย เหลือเพียง 54 รายที่ถูก พร้อมย้ำว่า ให้ทุกคนต้องยอมรับกฎกติกานี้
นายกรัฐมนตรี ถามไถ่ถึงที่ดินแปลงหนึ่งที่มีการไปล้อมรั้วลวดหนาม บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปหรืออย่างไร พร้อมถามว่า โอเค และพอใจหรือเปล่า ตนมาประสานให้ทุกอย่างเดินหน้า ไม่ได้มาทำ เพื่อทุกคนรักตน หากจะรักก็รักอยู่แล้ว แต่ทำวันนี้ คือทำให้ถูกต้อง วันนี้ตนมาประสาน เพื่อดำเนินงานต่อไปให้ได้ ไม่ได้ทำเพื่อเอาใจ วันนี้หากสำเร็จจะต้องให้เครดิตกับผู้ว่าฯ แล้วก็คณะทำงาน อย่าไปโกรธกัน โกรธกันมิได้ เนื่องจากต้องรักษากฎหมาย
หลักนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ จะต้องเดินคู่กัน ถ้าขัดแย้งกันบ้านเมืองก็เดินต่อไปมิได้ จะต้องสร้างความรักความสามัคคี จะบอกว่ารักนายกฯหรือไม่ชอบผู้ว่าฯ ก็มิได้ ต้องมีกฎหมายดูแล วันนี้การทำงานก็มีรองนายกฯอยู่หลายๆคน

ดังนี้ ชาวบ้าน กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ นายกฯ ลงมาดูด้วยตนเอง เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ ถ้าหากนายกฯไม่มา
อาจจะทำให้ถูกตัดสิทธิ์ได้ พร้อมกันนี้ มีประชาชน สวมกอดนายกฯ และก็ขอถ่ายภาพ พูดว่า นายกฯ หล่อกว่าในโทรทัศน์ อีกทั้งมีราษฎรขอหอมแก้ม แต่ว่านายกฯ บอกว่า โควิดยังมีอยู่ ก็เลยให้ถ่ายรูปด้วยแค่นั้น
ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี พูดว่าปัญหามี แม้กระนั้นจะให้ลงไปทุกพื้นที่คงจะไม่ว่าง เนื่องจากว่ามีปัญหา และก็งานอีกเยอะที่จะต้องทำ แค่ขอให้ยกปัญหาครั้งนี้ เป็นบทเรียน เพื่อจะนำร่องไปแก้ปัญหาที่ทำกินในพื้นที่อื่นได้ยังไง
นอกเหนือจากนั้น ยังมีตัวแทนประชาชนอีก 6 คน ขอให้นายกฯ แก้ไขที่ดินในการประกอบอาชีพที่ทับซ้อนกับที่ดินของรัฐ มีราษฎร 95 ครอบครัว ที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ ปัญหานี้ราษฎรเข้ามาทำกินในพื้นที่ ก่อนปี 2506 ที่ภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบ ประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวน ทำให้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ โดยนายกฯขอให้ประชาชนใจเย็น ในตอนนี้กำลังอยู่ในข้อตกลง ที่กำลังแก้อยู่ และจะรับเรื่องนี้ไปพิจารณา ซึ่งปัญหานี้เป็นการประกาศพื้นที่ทับซ้อน ภายหลังทำพื้นที่อัตรา 1:4000 วันนี้ตนมาแล้ว ก็จะรับเรื่องไว้ใหม่
นายกฯ กล่าวก่อนที่จะได้มีการเดินทางกลับ ว่า วันนี้ตนพูดในนามรัฐบาล มิได้มาหาเสียง หน้าที่ของ นายกฯคือให้ความเป็นธรรมกับประชาชนทั้งประเทศ การลงพื้นที่ครั้งนี้ การนำแนวทางไปใช้กับพื้นที่อื่นด้วย เพราะว่า คทช. จะจัดระเบียบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีปัญหาอยู่มากมาย ราษฎรมีทั้งรู้เรื่องและไม่รู้เรื่อง แต่นายกในฐานะประธาน คทช. ก็ได้มารับฟังปัญหาแล้ว ปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดความขัดแย้ง ให้ ชาวบ้านได้รับความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง ซึ่งทั้งผองคือหน้าที่ของรัฐบาล
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกฯ ใช้รถยนต์ฟอร์จูเนอร์ สีดำ เลขทะเบียน กฉ 4212 ยะลา